ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมักเลือกซื้อนั่งร้านมือสอง? สำหรับหลายคนที่ต้องทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างหรือซ่อมบำรุง การใช้นั่งร้านเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และการเลือกซื้อนั่งร้านมือสองกลับกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือ ความประหยัดต้นทุน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ผลักดันให้ผู้คนเลือกใช้นั่งร้านมือสอง ไม่ว่าจะเป็น ความพร้อมใช้งานที่รวดเร็ว หรือ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า แต่นั่งร้านมือสอง นั้นก็ต้องเลือกซื้อให้ดีไม่งั้นคุณอาจจะได้ของ ที่ไม่สมราคาซื้อใหม่เลยอาจดีกว่า เราได้รวมเคล็ดลับดีๆในการเลือกซื้อ นั่งร้านมือสอง มีตามนี้
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับนั่งร้าน
นั่งร้าน (Scaffolding) เป็นโครงสร้างชั่วคราวที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการช่วยในการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาอาคาร โครงสร้าง หรืองานที่เกี่ยวข้องกับงานสูง โดยทั่วไปนั่งร้านจะถูกประกอบขึ้นจากวัสดุต่างๆ เช่น โลหะ เหล็ก หรือไม้ และถูกใช้งานเพื่อรองรับน้ำหนักของคนงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการ
ประเภทของนั่งร้าน
ก่อนที่จะเลือกนั่งร้านมือสอง สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจคือประเภทของนั่งร้านที่มีให้เลือก ซึ่งแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป
1. นั่งร้านไม้ไผ่
นั่งร้านไม้ไผ่เป็นนั่งร้านที่ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ในการประกอบโครงสร้าง โดยนิยมใช้ในหลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะในงานก่อสร้างอาคารสูงและโครงการที่ต้องการประหยัดต้นทุน วัสดุไม้ไผ่มีคุณสมบัติแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก อย่างไรก็ตาม นั่งร้านไม้ไผ่ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้งและควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยให้ดี เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของไม้
2. นั่งร้านเสาเรียงเดียว (Single Scaffolding)
นั่งร้านเสาเรียงเดียวเป็นรูปแบบนั่งร้านที่ติดตั้งเรียงเสาในแนวเดียวกับผนังอาคาร เหมาะสำหรับงานก่ออิฐหรือฉาบปูน เนื่องจากมีเสาค้ำยันเพียงแนวเดียวอยู่ข้างผนัง ทำให้สามารถเข้าใกล้ผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุที่ใช้ทำโครงสร้างส่วนใหญ่มักจะเป็นไม้หรือเหล็ก โดยมีการติดตั้งบันไดเพื่อให้พนักงานสามารถขึ้นลงระหว่างระดับได้ นั่งร้านประเภทนี้ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ไม่ต้องการความซับซ้อนมาก
3. นั่งร้านเสาเรียงคู่ (Double Scaffolding)
นั่งร้านเสาเรียงคู่เป็นรูปแบบที่มีเสาสองแถวเรียงขนานกัน และเสริมความแข็งแรงด้วยการเชื่อมต่อข้ามระหว่างเสา เหมาะสำหรับงานที่ไม่สามารถเจาะผนังเพื่อติดตั้งนั่งร้านเสาเรียงเดียวได้ เช่น งานก่อสร้างอาคารหินหรือผนังที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี นั่งร้านเสาเรียงคู่จะมีความมั่นคงและแข็งแรงกว่านั่งร้านเสาเรียงเดียว เพราะโครงสร้างที่เสริมแรงช่วยให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น เหมาะกับงานที่ต้องรับน้ำหนักจากการเก็บวัสดุก่อสร้างหรืออุปกรณ์
4. นั่งร้านแบบใช้เหล็กท่อประกอบ (Tube and Coupler Scaffolding)
นั่งร้านแบบเหล็กท่อประกอบ เป็นนั่งร้านที่ใช้เหล็กท่อเป็นส่วนประกอบหลัก สามารถประกอบและปรับเปลี่ยนโครงสร้างได้หลากหลายตามความต้องการของงานก่อสร้าง การเชื่อมต่อของเหล็กท่อทำได้ด้วยข้อต่อแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถปรับความสูงหรือความกว้างของนั่งร้านได้อย่างอิสระ ข้อดีของนั่งร้านประเภทนี้คือความยืดหยุ่นและความแข็งแรง ทำให้เหมาะสำหรับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นคง
5. นั่งร้านแบบแขวนยื่น (Cantilever Scaffolding)
นั่งร้านแบบแขวนยื่นเป็นนั่งร้านที่มีการติดตั้งเสายึดไว้ที่ส่วนล่างของอาคารและยื่นออกมาสำหรับการทำงานในจุดที่นั่งร้านทั่วไปไม่สามารถติดตั้งได้ เช่น งานซ่อมแซมในที่สูงที่ไม่สามารถใช้เสาค้ำยันได้ ข้อดีของนั่งร้านแบบนี้คือสามารถทำงานในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังเพราะมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักที่สามารถรับได้
6. นั่งร้านแบบเคลื่อนที่ได้ (Mobile Scaffolding)
นั่งร้านแบบเคลื่อนที่ได้มีล้อเลื่อนที่ฐาน ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่าง ๆ ได้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และเครื่องมือบ่อย ๆ เช่น งานซ่อมบำรุงหรือการติดตั้งในอาคารที่มีพื้นที่กว้าง นั่งร้านประเภทนี้มักใช้ในงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง สามารถติดตั้งได้เร็วและย้ายตำแหน่งตามต้องการ
ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกนั่งร้านมือสอง
การเลือกนั่งร้านมือสองนั้นมีความแตกต่างจากการเลือกนั่งร้านใหม่ โดยคุณจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน และต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่านั่งร้านที่ซื้อนั้นสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
1 การตรวจสอบความสมบูรณ์ของวัสดุ
การตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการทำนั่งร้านเป็นสิ่งสำคัญ เพราะวัสดุที่ผ่านการใช้งานมาอาจเสื่อมสภาพหรือลดความแข็งแรงลงได้ การตรวจสอบต้องครอบคลุมไปถึงส่วนต่างๆ เช่น ท่อเหล็ก ข้อต่อ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
-
- ตรวจสอบสนิมหรือรอยแตกร้าวที่อาจเกิดขึ้นในท่อเหล็ก สนิมที่สะสมมากอาจทำให้เหล็กอ่อนแรงลงและส่งผลต่อความปลอดภัย
- ตรวจสอบข้อต่อและอุปกรณ์ยึดว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีหรือไม่ อุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญในการทำให้นั่งร้านมั่นคง
2 ความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน
นั่งร้านมือสองมักจะมาจากหลายแหล่ง ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าชิ้นส่วนต่างๆ เข้ากันได้ดีหรือไม่ ขนาดและรูปทรงของชิ้นส่วนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นหรือยี่ห้อ การที่ชิ้นส่วนไม่เข้ากันอาจทำให้นั่งร้านไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
3 อายุการใช้งานของนั่งร้าน
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคืออายุการใช้งานของนั่งร้าน นั่งร้านที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลานานมักจะเสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพลงตามกาลเวลา หากพบว่านั่งร้านมีอายุการใช้งานนานเกินไป อาจจะต้องพิจารณาซื้อนั่งร้านใหม่แทนเพื่อความปลอดภัย
4 มาตรฐานความปลอดภัย
นั่งร้านที่เลือกควรมีมาตรฐานความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด หากนั่งร้านไม่มีเครื่องหมายหรือเอกสารยืนยันว่าผ่านการทดสอบความปลอดภัย ก็ไม่ควรซื้อมือสองเพื่อนำมาใช้งาน
ข้อดีและข้อเสียของการซื้อ นั่งร้านมือสอง
ข้อดี
- ประหยัดต้นทุน: นั่งร้านมือสองมักมีราคาถูกกว่านั่งร้านใหม่ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลดต้นทุน
- ความพร้อมใช้งาน: นั่งร้านมือสองอาจมีพร้อมขายมากกว่า และสามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากตรวจสอบเรียบร้อย
- ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่: การซื้อนั่งร้านมือสองช่วยลดความต้องการในการผลิตวัสดุใหม่ และเป็นวิธีที่ช่วยสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพ: เนื่องจากนั่งร้านผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจมีปัญหาเชิงโครงสร้างหรือความเสี่ยงในการใช้งานได้
- ขาดความหลากหลายในการเลือก: บางครั้งนั่งร้านมือสองอาจไม่มีตัวเลือกที่หลากหลายเท่ากับการซื้อนั่งร้านใหม่
ขั้นตอนในการเลือกนั่งร้านมือสอง
1 เลือกผู้ขายที่น่าเชื่อถือ
เลือกซื้อจากผู้ขายที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการจัดจำนั่งร้านมือสอง คุณสามารถตรวจสอบประวัติการขายหรือรีวิวจากผู้ซื้อรายอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขายมีความน่าเชื่อถือ
2 ตรวจสอบสถานะการใช้งานของนั่งร้าน
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรขอดูสถานะการใช้งานของนั่งร้านทั้งหมด โดยเฉพาะการทดสอบโครงสร้างและการประกอบชิ้นส่วนเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
3 ขอใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัย
แม้ว่านั่งร้านจะเป็นมือสองก็ควรมีการขอใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อยืนยันว่านั่งร้านที่ซื้อนั้นได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานที่กำหนดไว้
เคล็ดลับการบำรุงรักษานั่งร้านมือสอง
เมื่อนำมาใช้งานแล้ว การบำรุงรักษานั่งร้านมือสองเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน โดยเคล็ดลับในการบำรุงรักษา ได้แก่
- ตรวจสอบสนิมและการกัดกร่อน : ตรวจสอบนั่งร้านทุกครั้งก่อนใช้งาน หากพบสนิมหรือการกัดกร่อน ควรทำการซ่อมแซมทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- ทำความสะอาด : ทำความสะอาดนั่งร้านหลังจากใช้งานเสร็จ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- เก็บรักษา : ควรเก็บนั่งร้านในที่แห้งและห่างจากความชื้น เพื่อลดโอกาสในการเกิดสนิม
สิ่งควรรู้ : การใช้งานนั่งร้านไม่ว่ามือ 1 หรือ 2 ผู้ใช้ต้องผ่านการอบรมที่สูงนั่งร้าน ตามชนิดที่ผู้ใช้จะใช้ทำงาน หากคุณกำลังมองหาศูนย์ฝึกอบรมนั่งร้าน BS และนั่งร้านญี่ปุ่น ที่มีสถานที่และอุปกรณ์สำหรับฝึกซ้อมพร้อม พร้อมมอบวุฒิบัตรให้กับคุณ สามารถติดต่อได้ที่ : อบรมนั่งร้าน.com
สรุป
การเลือกซื้อนั่งร้านมือสองสามารถเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัด สำหรับผู้ประกอบการที่มีงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่านั่งร้านมือสอง ที่เลือกสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย